กาฬสินธุ์(ชมคลิป)เค้นแม่สอบด.ช.3 ขวบยังปฏิเสธไม่ได้ร่วมทำร้ายเด็กอ้างลื่นล้มเอง


ตำรวจเค้นสอบแม่เด็กชายวัย 3 ขวบ หลังศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังให้การปฏิเสธ อ้างเป็นอุบัติเหตุเด็กลื่นล้มเองในห้องน้ำ
จากกรณีเจ้าหน้าที่อายัดศพ ด.ช.ศิวัฒน์ สาลี หรือน้องโอโบ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ด.ช.ภูเบศ มูลมั่ง หรือน้องเบ อายุ 3 ขวบ 5 เดือน ชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา โดยพบบาดแผลขัดแย้งกับการสอบประวัติผู้ป่วยก่อนเสียชีวิต เช่นหน้าผากมีอาการบวมปูด ขอบตาบวมมีรอยเขียวช้ำ และกระดูกข้อต่อบริเวณศอกแขนข้างซ้ายหลุด สงสัยว่าเด็กอาจถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ กระทั่งนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์และพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์สั่งการให้ตรวจสอบและหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนที่ศาลอนุมัติหมายจับนายคณากรณ์ มูลมั่ง อายุ30 ปี พ่อเลี้ยงเด็กชายวัย 3 ขวบ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย พร้อมนำตัวมาสอบสวนและฝากขัง เบื้องต้นให้การภาคเสธ ต่อมาศาลออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 1 คน คือนางสาวน.ส.สรัญญา โคตรวงค์ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายวัย 3 ขวบ
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 ตุลาคม 2563 พ.ต.ท.วิชิต วรรณพฤกษ์ พนักงานสอบสวนสภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดีได้ทำการสอบปากคำนางสาวน.ส.สรัญญา โคตรวงค์ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายวัย 3 ขวบ โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย หลังจากศาลออกหมายจับและชุดสืบสวนจับกุมตัวมาสอบปากคำเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่าน ซึ่งผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธไม่ได้ร่วมกับนายคณากรณ์ สามีที่เป็นพ่อเลี่ยงทำร้ายร่างกายลูกชาย และอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุเด็กลื่นล้มเองในห้องน้ำจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำของพนักงานสอบสวน เบื้องต้นนางสาวน.ส.สรัญญา ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนร่วมและไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกจนบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยยังคงอ้างว่าวันเกิดเหตุเด็กอุจระใส่ที่นอน ซึ่งสามีได้พาเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาเช็ดอุจระบนที่นอน แล้วเด็กเกิดลื่นล้มเองในห้องน้ำ ซึ่งยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครทำร้าย ทั้งนี้คำให้การของผู้ต้องหาที่ปฏิเสธนั้นเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆของตำรวจพบว่ามีความเชื่อมโยงและมีหลักฐานที่ชัดเจนกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ และมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีกับทั้งสองคนได้อย่างแน่นอน
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนต่อไปหลังจากพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำเสร็จแล้ว จะรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ คาดว่าน่าจะสอบปากคำเสร็จและสามารถส่งไปฝากขังได้ในวันที่ 24 ตุลาคม 2563 นี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานเท่าที่มีพบความเชื่อมเบื้องต้นเพียงสองคนคือพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก แต่หากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่ายังมีบุคคลอื่นที่ร่วมกระทำผิดเพิ่มอีกก็จะดำเนินการกฎหมายทันที เพื่อให้คดีนี้เกิดความกระจ่างชัดโดยเร็ว ตามข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา ทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เพราะเป็นคดีที่ให้ความสนใจของสังคมและประชาชน